แนวทางสำหรับระบบความปลอดภัยทางถนน (Road Traffic Safety Management Guide)

แนวทางสำหรับระบบความปลอดภัยทางถนน (Road Traffic Safety Management Guide)

เหตุผลหลักที่มีส่วนทำให้มีความจำเป็นในการจัดทำระบบบริหารความปลอดภัยทางถนน (Road Traffic Safety Management System, RTSMS) หรือ ระบบ ISO39001:2012 สำหรับองค์กร ประกอบด้วย

• การป้องกันการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางถนน

ถือเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 9 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.25 ล้านรายและมีผู้บาดเจ็บหรือทุพพลภาพหลายสิบล้านคนทุกปี (WHO, 2016)  เพื่อเร่งดำเนินการเพื่อลดภาระดังกล่าว สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติจึงได้ประกาศ ทศวรรษแห่งการดำเนินการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (2011–2020) เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติรวมถึงเป้าหมายด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อลดการเสียชีวิต บรรลุการขนส่งในเมืองที่ปลอดภัยและนำแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะที่ยั่งยืนมาใช้

ISO 39001 กล่าวถึงการมีส่วนสนับสนุนที่องค์กรต่างๆ สามารถมีได้เพื่อป้องกันการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสที่หลีกเลี่ยงได้ในระบบการจราจรทางถนน

• การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนมีส่วนทำให้เสียชีวิตจากการทำงานบนถนนสาธารณะประมาณ 50%  ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยทางถนนเหล่านี้ มีต้นทุนสูงแต่สามารถป้องกันได้ด้วยการจัดการความปลอดภัยทางถนนที่ดี

บริษัทใหญ่ๆ ใช้ระบบการจัดการความปลอดภัยกันอย่างแพร่หลาย เพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยขององค์กร และสนับสนุนการปฏิบัติการขนส่งทางอากาศ, ทางทะเล, และทางรถไฟที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การจัดการองค์กรเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยทางถนนนั้นไม่ค่อยเห็นชัดนักใน การจราจรทางถนนและในกระแสหลักของโปรแกรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย แม้แต่ในประเทศที่มีกิจกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนมากที่สุด

• จำเป็นต้องมีแนวทางที่เป็นระบบและเน้นผลลัพธ์

การป้องกันการบาดเจ็บบนท้องถนน ต้องมุ่งเน้นอย่างชัดเจนในการบรรลุผลลัพธ์ ความรับผิดชอบร่วมกันที่มีความหมายและการจัดการอย่างเป็นระบบในภาคส่วนสาธารณะ และเอกชน ISO 39001 ช่วยเหลือองค์กรทุกประเภทและทุกขนาดในภารกิจการจัดการความปลอดภัยบนท้องถนน

ISO 39001 สอดคล้องกับมาตรฐานระบบการจัดการ ISO อื่นๆ อย่างสมบูรณ์ รวมถึงระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001 และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 แม้ว่า ISO 39001 จะให้แนวทางเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยที่สำคัญและเน้นย้ำอย่างหนักแน่นในการบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับระยะกลางและระยะยาว แต่ไม่ได้กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการจัดการความปลอดภัย

ISO 39001 ยังสอดคล้องกับแนวทางระบบที่ปลอดภัยสำหรับความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งรวมอยู่ในแผนระดับโลกของสหประชาชาติด้านความปลอดภัยบนท้องถนนและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ISO 39001 ได้รับการออกแบบมา เพื่อช่วยให้องค์กรลดและขจัดอุบัติการณ์และความเสี่ยงของการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางถนน

ประโยชน์ของการนำ ISO 39001 มาใช้

องค์กรที่นำระบบการจัดการความปลอดภัยบนท้องถนนมา ใช้จะทำให้

•  มีส่วนร่วมในความพยายามเพื่อป้องกันการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุบนท้องถนน

•  แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรต่อปัญหาที่สาธารณชนให้ความสำคัญ และใส่ใจต่อพนักงาน

•  จัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการทำงานหลักประการหนึ่งขององค์กร

•  ลดค่าใช้จ่ายขององค์กรจากอุบัติเหตุและเหตุการณ์บนท้องถนน รวมถึงวันทำงานที่สูญเสียไปจากการบาดเจ็บ

•  ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อกำหนดเป้าหมายความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนท้องถนน

•  ส่งเสริมองค์กร ปรับปรุงภาพลักษณ์ และเพิ่มธุรกิจ

•  เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในกระบวนการประมูล หรือเสนองาน

•  ลดเบี้ยประกันและค่าซ่อม

แนวทางระบบปลอดภัย

เป้าหมายสูงสุดภาย ใต้แนวทางระบบปลอดภัย คือ การกำจัดการเสียชีวิต และการบาดเจ็บสาหัสบนท้องถนน โดยได้รับการสนับสนุนจากเป้าหมายเชิงปริมาณเป็นระยะๆ เพื่อลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัส รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดังกล่าว

การแทรกแซงระบบปลอดภัย จะครอบคลุมทุกองค์ประกอบของระบบการจราจรบนถนนและความเชื่อมโยงของระบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางถนน, ยานพาหนะ, ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน และผู้ใช้ถนน ISO 39001 เป็นเครื่องมือการจัดการเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากความพยายามเหล่านี้

แนวทางระบบปลอดภัย ได้รับแรงบันดาลใจจากการกำหนดกรอบความปลอดภัยทางถนนใหม่ ในฐานะปัญหาของสังคม โดยหัวใจสำคัญของแนวทางระบบปลอดภัย คือ การออกแบบและจัดการระบบการจราจรบนถนน ให้สามารถรองรับข้อผิดพลาดของมนุษย์ได้ดีขึ้นและรับรู้ถึงความเปราะบางทางกายภาพของผู้ใช้ถนนได้ ซึ่งทำได้โดยการจัดการพลังงานจากการชนเป็นหลัก เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ถนนรายใดรายหนึ่งต้องสัมผัสกับแรงกระแทกจากการชนที่อาจส่งผลให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส

แผนงานในการนำ ISO 39001 มาใช้

โดยทั่วๆ ไป องค์กรที่ต้องการรับการรับรอง ISO 39001 หรือปฏิบัติตามวิธีการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ ในการพัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัยก่อนพิจารณารับการรับรอง จะต้องดำเนินการ 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ ของแบบจำลอง PDCA วางแผน(Plan)-ปฏิบัติ(Do)-ตรวจสอบ(Check)-ปรับปรุง(Act)  ขั้นพื้นฐาน เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ขั้นตอนที่ 1: ขอบข่ายและบริบทองค์กร

ระบุผลกระทบที่องค์กรสามารถมีต่อความปลอดภัยในการจราจรบนถนน (RTS) จัดทำแผนที่ผลกระทบดังกล่าวให้ครอบคลุมฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และกำหนดขอบเขตขององค์กรของระบบการจัดการ RTS (ดูข้อ 4 ของ ISO 39001)

มาตรฐานดังกล่าวกำหนด ให้องค์กรต้องมุ่งมั่นต่อเป้าหมายระยะยาวในการขจัดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสอันเป็นผลจากอุบัติเหตุทางถนนในที่สุด พร้อมทั้งให้องค์กรสามารถกำหนดขอบเขตของระบบการจัดการที่องค์กรกำหนดขึ้นได้

ขอบเขตของระบบการจัดการจะพิจารณาได้ดีที่สุดจากกิจกรรมต่อไปนี้ ซึ่งมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน:

• การใช้ระบบจราจรทางถนนของพนักงานไปและกลับจากที่ทำงาน หรือระหว่างปฏิบัติหน้าที่

•  การขนส่งสินค้า และผู้โดยสารในระบบจราจรทางถน นที่ดำเนินการโดยองค์กร หรือ ที่ทำสัญญากับองค์กรอื่น

•  กิจกรรมที่สร้างการจราจรไป และกลับจากสถานที่ที่ควบคุม หรือได้รับอิทธิพลจากองค์กร เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต, โรงเรียน, และสถานที่ที่มีผู้เยี่ยมชมจำนวนมาก

•  การส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ สำหรับระบบจราจรทางถนน เช่น การก่อสร้าง หรือบำรุงรักษาถนน หรือยานพาหนะ ตลอดจนกิจกรรม เช่น การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือการบังคับใช้กฎหมาย

กิจกรรมเหล่านี้แต่ละอย่าง อาจเกี่ยวข้องกับการที่องค์กรเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือการบาดเจ็บสาหัสบนเครือข่ายถนน หรือบริเวณที่ตั้งของเครือข่าย หรือลดความเสี่ยงนี้ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ เนื่องจากพวกเขาอาจต้องมีส่วนร่วมในการดำเนินการ

ขั้นตอนที่ 2: ความเป็นผู้นำ

สร้างความมุ่งมั่นของผู้นำ โดยยึดถือวิสัยทัศน์ระยะยาว ในการขจัดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัส และจัดสรรทรัพยากรเพื่อจัดตั้ง นำไปปฏิบัติ, บำรุงรักษา, และปรับปรุงระบบการจัดการ RTS อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ จัดทำ, ทำเป็นเอกสาร และสื่อสารนโยบาย RTS และมอบหมายความรับผิดชอบขององค์กร (ดูข้อ 5 ของ ISO 39001)

ISO 39001 กำหนดให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ต้องแสดงความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในหลากหลายวิธี รวมถึง:

• การนำการขจัดการเสียชีวิต และการบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางถนน มาเป็นเป้าหมายระยะยาวของ RTS รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับผลลัพธ์ของ RTS ที่จะบรรลุใน

•  การทำงานเป็นหุ้นส่วน และความร่วมมือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อ งเพื่อพัฒนาระบบการจราจรบนถนนที่ปลอดภัย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ RTS ที่กำหนดไว้

•  การสื่อสารถึงความสำคัญของการจัดการ RTS ที่มีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของระบบการจัดการ RTS

•  การเสนอชื่อและการจัดสรรทรัพยากรบุคคล และการเงินเพื่อจัดตั้ง, นำไปปฏิบัติ, บำรุงรักษา และปรับปรุงระบบการจัดการ RTS อย่างต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญ อีกประการหนึ่งของความเป็นผู้นำ คือ ความจำเป็นในการเตรียมคำชี้แจงนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้บริหารระดับสูงในการขจัดการเสียชีวิต และการบาดเจ็บสาหัส และปรับปรุงระบบการจัดการอย่างต่อเนื่อง นโยบายดังกล่าวจะกลายเป็นเอกสารแนวทางสำหรับการพัฒนาวัตถุประสงค์และเป้าหมาย และระดมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย

ขั้นตอนที่ 3: การวางแผน

พิจารณาความเสี่ยงและโอกาส ผ่านการประเมินผลการดำเนินงานปัจจุบัน และระบุปัจจัยการดำเนินงาน RTS ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน กำหนดวัตถุประสงค์ และเป้าหมายสำหรับปัจจัยการดำเนินงานแต่ละประการ และพัฒนาแผนปฏิบัติการ (ดูข้อ 6 ของ ISO 39001)

คุณลักษณะที่กำหนดมาตรฐาน ISO 39001 คือ การระบุปัจจัยประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย ที่องค์กรต้องพิจารณาเมื่อกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย มีปัจจัยประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยสามชุดที่ระบุไว้ในมาตรฐาน:

•  ปัจจัยการเปิดรับความเสี่ยง (เช่น ปริมาณการจราจรบนถนนสายต่างๆ โดยกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน รวมถึงผู้ใช้ที่เปราะบาง เช่น คนเดินเท้า, นักปั่นจักรยาน, และผู้ใช้มอเตอร์ไซค์)

•  ปัจจัยผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยขั้นสุดท้าย (เช่น จำนวนผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บสาหัสบนถนนสายต่างๆ)

•  ปัจจัยผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยขั้นกลาง (ปัจจัยที่มีฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ ที่เชื่อมโยงการปรับปรุงกับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น)

ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยระดับกลาง

แม้ว่าปัจจัยความเสี่ยงและปัจจัยผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยขั้นสุดท้าย จะต้องได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยระดับกลาง (ซึ่งเชื่อมโยงกับปัจจัยผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยขั้นสุดท้าย)ืจำเป็นต้องได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการประเมินระดับความปลอดภัยพื้นฐาน แทนที่จะพึ่งพาเหตุการณ์อุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ระดับกลางทั่วไป หรือตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย ที่ได้รับการกำหนดเป้าหมายและ/หรือติดตามในการทำงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่:

•  ความเร็วเฉลี่ย หรือระดับความเร็วเกินกำหนด

•  ระดับการใช้เข็มขัดนิรภัย, ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก, และหมวกกันน็อค

•  ระดับการขับขี่ที่ไม่เมาสุรา

•  ระดับความปลอดภัยของเครือข่ายถนนโดยใช้คะแนน iRAP

•  ระดับความปลอดภัยของยานพาหนะที่ใช้คะแนน NCAP

•  เวลาตอบสนองของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ยังสามารถวัด, กำหนดเป้าหมาย, และตรวจสอบผลลัพธ์ของสถาบันที่เกี่ยวข้องได้ ตัวอย่างเช่น ระดับการติดตั้งตัวเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยในยานพาหนะ, ซึ่งจะส่งผลต่อระดับการใช้เข็มขัดนิรภัย หมวดหมู่ทั่วไปของปัจจัย RTS ที่จำเป็นต้องพิจารณาภายใน ISO 39001 ได้แก่:

•  การออกแบบถนนและความเร็วที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการแยกทาง (การจราจรที่วิ่งสวนมา และผู้ใช้ถนนที่เปราะบาง) พื้นที่ด้านข้าง และการออกแบบทางแยก

•  การใช้ถนนที่เหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับประเภทของรถ, ผู้ใช้, ประเภทของสินค้าและอุปกรณ์

•  การใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงเข็มขัดนิรภัย, ที่นั่งสำหรับเด็ก, หมวกกันน็อคจักรยานและหมวกกันน็อคสำหรับจักรยานยนต์ และวิธีการมองเห็น และถูกมองเห็น

•  การใช้ความเร็วในการขับขี่ที่ปลอดภัย โดยคำนึงถึงประเภทของรถ, การจราจร, และสภาพอากาศด้วย

•  ความพร้อมของผู้ขับขี่, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความเหนื่อยล้า, สมาธิสั้น, แอลกอฮอล์และยาเสพติด

•  การวางแผนการเดินทางที่ปลอดภัย รวมถึงการพิจารณาถึงความจำเป็นในการเดินทาง, ระยะทางและวิธีการเดินทาง และการเลือกเส้นทาง, รถ และคนขับ

•  ความปลอดภัยของยานพาหนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการปกป้องผู้โดยสาร, การปกป้องผู้ใช้รายอื่น (ทั้งผู้ที่เปราะบาง และผู้โดยสารคนอื่นในรถ) การหลีกเลี่ยง และบรรเทาอุบัติเหตุทางถนน, ความสมบูรณ์ในการเดินทาง, ความจุของยานพาหนะ, และการยึดสิ่งของใน และบนยานพาหนะ,  การอนุญาตที่เหมาะสม ในการขับขี่/โดยสารยานพาหนะ, ประเภทที่ขับขี่/โดยสาร

•  การนำยานพาหนะ และคนขับ/ผู้โดยสารที่ไม่เหมาะสมออกจากเครือข่ายถนน

•  การตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ และการปฐมพยาบาล, การเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน, และการฟื้นฟูและฟื้นฟูหลังเกิดอุบัติเหตุ

เมื่อองค์กรได้เลือกปัจจัยประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย ที่ต้องการใช้ในการทำงานแล้ว จำเป็นต้องกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายสำหรับผลลัพธ์ระยะกลาง รวมถึงแผนปฏิบัติการเฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการบรรลุเป้าหมาย และเป้าหมายหลักเหล่านี้ การมุ่งเน้น, วัดผล, และติดตามปัจจัยผลลัพธ์ระยะกลางที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของ RTS ได้มากที่สุด จะทำให้สามารถบรรลุการปรับปรุงเชิงระบบได้

ตัวอย่างบริบทและปัจจัยประสิทธิภาพของ RTS สำหรับองค์กรประเภทต่างๆ

ขั้นตอนที่ 4: การนำไปปฏิบัติ

นำไปปฏิบัติและดำเนินการระบบการจัดการ RTS และให้แน่ใจว่ามีขีดความสามารถเพียงพอ สำหรับการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย (ดูข้อ 7 และ 8 ของ ISO 39001)

ลักษณะเด่นของ ISO 39001 ในฐานะมาตรฐานการจัดการนั้น อยู่ในสามขั้นตอนแรกของการพัฒนาระบบการจัดการ, การดำเนินการ, การประเมิน, และการปรับปรุงระบบการจัดการนั้น มีลักษณะทั่วไปมากกว่า ซึ่งสะท้อนถึงกระบวนการจัดการที่ดี

ISO 39001 เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่สำคัญหลายประการ:

•  การประสานงานกิจกรรมอย่างมีประสิทธิผล ทั้งภายในองค์กรเอง และกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานระบบการจัดการที่ประสบความสำเร็จ

•  จำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำระบบการจัดการความปลอดภัยไปใช้ และอาจต้องมีทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงระบบ

•  ระบบการจัดการต้องมีเจ้าหน้าที่ ที่เข้าใจวัตถุประสงค์และกระบวนการหลัก และแนวทางที่จำเป็นสำหรับการนำไปใช้ รวมถึงกระบวนการ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเผยแพร่และนำแนวทางปฏิบัติและเทคนิคด้านความปลอดภัยใหม่ๆ มาใช้อย่างต่อเนื่อง

•  จำเป็นต้องสื่อสารและส่งเสริมข้อกำหนดของระบบการจัดการความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ทั้งภายในและภายนอกเพื่อสร้างการสนับสนุนระบบและลดความเสี่ยงจากการจราจรบนถนนอย่างต่อเนื่อง

จำเป็นต้องมีการกำหนด กระบวนการด้านความปลอดภัยในการจราจรบนถนน, บันทึก, และปฏิบัติตาม, กระบวนการและเอกสารต้องรองรับภารกิจการจัดการ และไม่กลายเป็นภาระหรือจุดสนใจในตัวเอง

เอกสารของระบบและการรายงานที่เกี่ยวข้องกับระบบ จะต้องเพียงพอสำหรับวัตถุประสงค์ในการควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิผล และปรับปรุงผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยในระยะยาวเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 5: การเฝ้าติดตามและประเมินผล

ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของ RTS ดำเนินการตรวจติดตามภายใน และทบทวนระบบการจัดการ RTS เป็นระยะเพื่อระบุโอกาสในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (ดูข้อ 9 ของ ISO39001)

จำเป็นต้องมีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของระบบการจัดการ และผลลัพธ์ที่ได้รับเป็นระยะๆ จำเป็นต้องมีกระบวนการติดตาม, สอบสวน, ตรวจประเมิน และทบทวน ซึ่งเน้นที่ประเด็นด้านความปลอดภัยที่สำคัญ นั่นคือปัจจัยด้านประสิทธิภาพความปลอดภัยที่องค์กรได้ระบุไว้ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานเป็นระยะๆ

ขั้นตอนที่ 6: การปรับปรุงต่อเนื่อง

ปรับปรุงระบบการจัดการ RTS อย่างต่อเนื่องโดยพิจารณาถึงประสิทธิภาพของ RTS และระบบการจัดการ RTS เอง (ดูข้อ 10 ของ ISO 39001)

การขจัดความเกี่ยวข้องขององค์กรในการเสียชีวิต และการบาดเจ็บสาหัสบนท้องถนน จะต้องใช้เวลา องค์กรต่างๆ ต้องมองไปข้างหน้าถึงการปรับปรุงที่สำคัญที่สุดที่สามารถทำได้ในการดำเนินงานของตนเอง และดำเนินการเพื่อให้บรรลุสิ่งเหล่านี้ ISO 39001 กำหนดให้ผู้บริหารระดับสูงต้องดำเนินการทบทวนอย่างมีวิจารณญาณถึงสิ่งที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของระบบการจัดการ RTS และดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่อระบบการจัดการ

การนำระบบบริหารความปลอดภัยทางถนน (ISO39001:2012 Road Traffic Safety Management System) มาประยุกต์ใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรมีความปลอดภัยในการขับขี่, เสริมสร้างความมุ่งมั่น ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความก้าวหน้ายั่งยืน, สร้างความปลอดภัยต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้รถใช้ถนน, และเพิ่มสมรรถนะในการแข่งขันขององค์กร สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า, ผู้บริหารและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ 

สนใจฝึกอบรมจัดทำระบบ ติดต่อเรา ยินดีให้คำปรึกษากับทุกองค์กร

ติดต่อที่ปรึกษาจัดทำระบบ ISO39001, RTSMS หรืออื่น ๆ  โทร. 084-1147666 

#RTSMS, #RoadSafety, #ISO39001, #RTS, #TSM